ชื่อของ “กัน จอมพลัง” หรือ “กัน ณัฐวัฒน์ ชาติบัญชาชัย” กลับมาอยู่ในกระแสข่าวการเมืองอีกครั้ง หลังมีรายงานจากแหล่งข่าวในสภาว่า หลายพรรคการเมืองกำลังแสดงความสนใจดึงตัวเขาเข้าร่วมทีมรัฐบาล ด้วยเหตุผลสำคัญว่า “เป็นคนทำงานจริง เสียงดังในสังคม และเข้าถึงประชาชนได้” จนกลายเป็นกระแสพูดถึงทั้งในโลกโซเชียลและวงการการเมืองว่า “ใครได้กันไป รัฐบาลชุดนั้นมีแต่ปังแน่นอน”
เส้นทางของ “กัน จอมพลัง” จากโซเชียลสู่วงการเมือง
กัน จอมพลัง เริ่มเป็นที่รู้จักจากการเป็นนักเคลื่อนไหวทางสังคมที่มักยื่นมือเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ถูกเอาเปรียบ เช่น คดีแรงงาน คดีผู้บริโภค หรือการเปิดโปงพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลของหน่วยงานรัฐและเอกชน เขาเป็นคนที่มีสไตล์ตรงไปตรงมา ใช้คำพูดแรงแต่จริงใจ และมักออกมาปกป้องคนตัวเล็กในสังคม
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กันได้ขยายบทบาทจาก “นักสู้เพื่อประชาชน” มาสู่ “นักการเมือง” อย่างเต็มตัว ด้วยการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองระดับชาติ และเริ่มมีบทบาทในการผลักดันประเด็นสังคมเข้าสู่สภาฯ แม้จะมีทั้งคนรักและคนไม่เห็นด้วย แต่ชื่อ “กัน จอมพลัง” ก็กลายเป็นแบรนด์ที่ใคร ๆ ก็พูดถึง
ความนิยมที่พุ่งสูงในโลกออนไลน์
บนโซเชียลมีเดีย กัน จอมพลัง มีฐานผู้ติดตามจำนวนมากจากการทำคอนเทนต์ช่วยเหลือประชาชนในหลากหลายประเด็น โดยเฉพาะคลิปการ “ช่วยเหลือผู้เดือดร้อน” ที่มักจะถูกแชร์ไปอย่างรวดเร็วและมียอดวิวสูงหลักล้าน
หลายคนมองว่า “กัน” มีความสามารถในการสร้างกระแสและขับเคลื่อนประเด็นทางสังคมให้กลายเป็นเรื่องระดับประเทศได้อย่างรวดเร็ว เช่น การไลฟ์สดแฉขบวนการโกง การเข้าช่วยผู้เสียหายคดีดัง และการเจรจากับหน่วยงานรัฐเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ประชาชน
ด้วยพลังของโซเชียลนี้เอง ทำให้เขากลายเป็น “สินทรัพย์ทางการเมือง” ที่หลายพรรคอยากได้ไปเสริมทัพ เพราะมีทั้งเสียงสนับสนุนจากประชาชนและความสามารถในการขับเคลื่อนประเด็นได้จริง
ทำไมพรรคการเมืองถึงอยากได้ “กัน จอมพลัง”
แหล่งข่าวในวงการการเมืองเปิดเผยว่า ขณะนี้มีหลายพรรคทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านกำลังจับตา “กัน จอมพลัง” อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะหลังเขาแสดงจุดยืนชัดเจนเรื่อง “ประชาชนต้องมาก่อน” และ “ต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ”
นักวิเคราะห์ทางการเมืองให้เหตุผลว่า “กัน จอมพลัง” มีจุดเด่นที่หาได้ยากในนักการเมืองยุคนี้ คือการเข้าถึงประชาชนโดยตรงและไม่กลัวการปะทะทางความคิดเห็น เขาไม่ใช่นักการเมืองที่อยู่แค่ในสภา แต่เป็นคนที่ลงพื้นที่จริง พูดคุยกับชาวบ้าน และสื่อสารด้วยภาษาที่คนทั่วไปเข้าใจได้
จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายพรรคมองว่า หากมี “กัน จอมพลัง” อยู่ในทีม จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ “รัฐบาลประชาชน” ได้เป็นอย่างดี
เบื้องหลังการถูกจีบเข้ารัฐบาล
มีรายงานว่า หลังจากการปรับคณะรัฐมนตรีล่าสุด มีพรรคการเมืองหลายพรรคส่งสัญญาณอยากดึง “กัน จอมพลัง” เข้ามาร่วมงาน โดยมีทั้งตำแหน่งด้านสังคม การป้องกันการทุจริต และงานนโยบายช่วยเหลือประชาชน ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของเขา
อย่างไรก็ตาม กันยังไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธอย่างเป็นทางการ โดยให้เหตุผลว่า “ตอนนี้ขอโฟกัสกับการทำงานเพื่อประชาชนก่อน ส่วนเรื่องการเมืองเป็นเรื่องของอนาคต”
คำตอบสั้น ๆ นี้กลับยิ่งทำให้สื่อและนักการเมืองตีความว่า “กัน” กำลังชั่งใจ และอาจรอจังหวะที่เหมาะสมก่อนตัดสินใจ
เสียงจากโลกออนไลน์
เมื่อข่าวการถูกจีบเข้าร่วมรัฐบาลแพร่ออกไป โลกโซเชียลต่างถกกันอย่างดุเดือด บางคนบอกว่า “ถึงเวลาที่กันจะได้ทำงานในระบบจริง ๆ แล้ว” ขณะที่บางคนกลับมองว่า “เขาควรอยู่ในฐานะนักเคลื่อนไหวอิสระมากกว่า จะได้ไม่ถูกการเมืองกลืน”
ในทวิตเตอร์มีแฮชแท็ก #กันจอมพลัง ติดเทรนด์ขึ้นอันดับต้น ๆ ภายในไม่กี่ชั่วโมง หลายคนแสดงความเห็นว่า “ถ้าเขาได้เข้าไปอยู่ในรัฐบาลจริง จะเป็นเสียงของประชาชนตัวจริงในสภา”
บางคอมเมนต์ยังระบุว่า “กันเป็นคนกล้าพูด กล้าทำ ถ้าได้เข้าไปช่วยแก้ระบบราชการที่ล่าช้า น่าจะเปลี่ยนภาพลักษณ์รัฐบาลได้เยอะ”
ผลงานเด่นที่ผ่านมา
ตลอดเส้นทางการทำงานของ “กัน จอมพลัง” เขามีบทบาทสำคัญในหลายกรณีที่ถูกพูดถึงในสังคม เช่น
- การช่วยเหลือแรงงานที่ไม่ได้รับค่าแรงจากนายจ้าง
- การเปิดโปงขบวนการหลอกลวงออนไลน์
- การเป็นตัวกลางประสานงานให้ผู้เสียหายเข้าถึงหน่วยงานภาครัฐ
- การผลักดันให้มีกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคที่เข้มแข็งขึ้น
ผลงานเหล่านี้ทำให้กันได้รับฉายา “จอมพลังประชาชน” เพราะเขามักยื่นมือช่วยโดยไม่หวังผลตอบแทน และเน้นสร้างแรงกดดันทางสังคมให้ปัญหาถูกแก้ไขจริง

เสียงจากนักวิเคราะห์
นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์มองว่า การที่หลายพรรคการเมืองพยายามดึง “กัน จอมพลัง” เข้าร่วมรัฐบาล แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเมืองยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับ “คนที่มีอิทธิพลทางสังคม” มากกว่าการเมืองแบบเดิม
“กันเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเริ่มได้จากคนธรรมดา ถ้าเขาได้เข้าร่วมรัฐบาลจริง จะเป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมโยงระหว่างภาคประชาชนกับภาครัฐ”
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายเตือนว่า หาก “กัน” เลือกเข้าสู่รัฐบาล เขาจะต้องระวังไม่ให้ภาพลักษณ์ของ “นักสู้ประชาชน” ถูกทำลาย เพราะการอยู่ในโครงสร้างอำนาจอาจทำให้เขาเจอกับแรงเสียดทานทางการเมือง
สรุป
ไม่ว่ากัน จอมพลัง จะตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ แต่สิ่งที่แน่นอนคือ เขาได้กลายเป็น “คนสำคัญในสมรภูมิการเมืองไทย” ไปแล้ว เสียงของเขามีอิทธิพลทั้งในโลกออนไลน์และในชีวิตจริง และชื่อของเขาก็ถูกพูดถึงทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
คำถามที่ยังไม่มีคำตอบคือ — “กัน จอมพลัง จะเลือกยืนอยู่ตรงไหน?” จะเป็นนักเคลื่อนไหวอิสระเพื่อประชาชน หรือจะก้าวขึ้นสู่เวทีการเมืองอย่างเต็มตัวเพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงจากภายใน
FAQ
- กัน จอมพลัง คือใคร
– เป็นนักเคลื่อนไหวทางสังคมและนักการเมืองที่มีชื่อเสียงจากการช่วยเหลือประชาชนในคดีต่าง ๆ - ทำไมหลายพรรคถึงอยากได้เขาเข้าร่วมรัฐบาล
– เพราะกันมีฐานเสียงในสังคมสูง เข้าถึงประชาชน และมีภาพลักษณ์เป็นคนทำงานจริง - เขาเคยทำงานด้านใดมาก่อน
– เคยทำงานด้านแรงงาน ผู้บริโภค และการตรวจสอบการทุจริต รวมถึงการช่วยเหลือผู้เดือดร้อน - กันตอบอย่างไรต่อข่าวถูกจีบเข้ารัฐบาล
– เขายังไม่ยืนยันหรือปฏิเสธ โดยกล่าวเพียงว่า “ขอโฟกัสที่การทำงานเพื่อประชาชนก่อน” - ถ้าเขาเข้าร่วมรัฐบาลจริง จะมีผลอย่างไร
– จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้รัฐบาลในแง่ของความจริงใจและการเข้าถึงประชาชนมากขึ้น - คนทั่วไปมองกัน จอมพลัง อย่างไร
– มองว่าเป็นคนกล้า ตรงไปตรงมา และมีพลังในการเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างแท้จริง