Skip to content
  • Movie
  • ข่าวดัง
  • วงการหนังผู้ใหญ่
  • วาไรตี้

world briefs

  • Movie
  • ข่าวดัง
  • วงการหนังผู้ใหญ่
  • วาไรตี้
  • Toggle search form

หนัง mission impossible – the final reckoning (2025) มิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ล ปิดปฏิบัติการล่าพิกัดมรณะ

Posted on 1 ตุลาคม 20251 ตุลาคม 2025 By meme ไม่มีความเห็น บน หนัง mission impossible – the final reckoning (2025) มิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ล ปิดปฏิบัติการล่าพิกัดมรณะ

Mission: Impossible – The Final Reckoning หรือที่รู้จักกันในชื่อ Mission: Impossible 8 ซึ่งเข้าฉายเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2025 ถือเป็นบทสรุปของเรื่องราวการไล่ล่า “ดิ เอนทิตี” (The Entity) ที่เริ่มต้นในภาคที่แล้ว (Dead Reckoning Part One) และถูกวางตำแหน่งให้เป็น “บทสรุป” (The Final Reckoning) สำหรับสายลับในตำนานอย่าง อีธาน ฮันต์ (ทอม ครูซ)

คะแนนและกระแสวิจารณ์โดยรวม

 

ภาพยนตร์ได้รับคำวิจารณ์ที่ เป็นบวก จากนักวิจารณ์ส่วนใหญ่ แต่ถูกมองว่า ตกลงมาจากจุดสูงสุด ที่เคยทำไว้ในภาคก่อนหน้าอย่าง Fallout และ Dead Reckoning Part One

  • Rotten Tomatoes: ประมาณ 80% (Certified Fresh)
    • บทสรุปจากนักวิจารณ์ (Critics Consensus): “ยิ่งใหญ่ทั้งฉากแอ็คชัน, ความยาว, และขอบเขต, The Final Reckoning คือการส่งท้ายที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกสำหรับอีธาน ฮันต์ ที่ทำภารกิจสำเร็จด้วยลีลาที่เป็นเอกลักษณ์ของสิ่งที่เป็นไปไม่ได้”
  • Metacritic: ประมาณ 67/100 (อยู่ในระดับ “เป็นบวกโดยทั่วไป”)
  • IMDB: ประมาณ 7.6/10 (เป็นคะแนนที่สูงเป็นอันดับสองของแฟรนไชส์ ร่วมกับ Dead Reckoning Part One)
  • CinemaScore (ผู้ชม): A-

กระแสวิจารณ์ชี้ให้เห็นว่า แม้ตัวหนังจะยังคงเต็มไปด้วยฉากสตันท์อันน่าทึ่งตามสไตล์ของทอม ครูซ แต่ภาพยนตร์กลับ มีจุดสะดุด และ ขาดความกระชับ ในการเล่าเรื่องบางช่วง


 

บทวิจารณ์โดยละเอียด: จุดแข็งและจุดอ่อน

 

 

1. จุดแข็ง: ฉากแอ็คชันและ “ภารกิจที่เป็นไปไม่ได้”

 

  • ฉากสตันท์ระดับโลก: หัวใจของแฟรนไชส์ยังคงแข็งแกร่ง ฉากแอ็คชันขนาดใหญ่ยังคงเป็นที่ชื่นชมอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะฉากสำคัญอย่าง ฉากการต่อสู้ในเรือดำน้ำ และ ฉากเครื่องบิน (Plane Sequence) ที่ถูกกล่าวถึงว่าเป็นหนึ่งในฉากที่น่าตื่นเต้นที่สุดของแฟรนไชส์ ผู้ชมในโรงภาพยนตร์ต่างรู้สึกตื่นเต้นจนนั่งไม่ติดเก้าอี้
  • การส่งท้ายที่ซาบซึ้ง: ภาพยนตร์มีความเป็น “จดหมายรัก” (Sentimental Sendoff) ให้กับแฟรนไชส์ มีการย้อนรำลึกถึงภาคก่อน ๆ และมอบความรู้สึกของการเป็นจุดจบที่คู่ควรสำหรับอีธาน ฮันต์ แม้ว่าหนังจะเปิดประตูไว้สำหรับภาคต่อไปก็ตาม
  • ทีมนักแสดงสมทบ: นักแสดงหลักอย่าง วิง เรมส์ (ลูเทอร์), ไซมอน เพ็กก์ (เบนจี), และ เฮย์ลีย์ แอทเวลล์ (เกรซ) ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ เกรซ ที่ได้รับการพัฒนาบทบาทให้มีความสำคัญและมีส่วนร่วมทางอารมณ์มากขึ้น

 

2. จุดอ่อน: บทภาพยนตร์และจังหวะของหนัง

 

  • การเล่าเรื่องที่ช้าและไม่กระชับ: ถูกวิจารณ์ว่า องก์แรกดำเนินไปอย่างช้า ๆ และมี บทบรรยายที่มากเกินไป (Too Much Exposition) เพื่ออธิบายความเป็นมาและความซับซ้อนของ “ดิ เอนทิตี” ซึ่งทำให้อารมณ์ของหนังในตอนต้นดู น่าเบื่อ และ ไม่สนุก เท่าภาคก่อน ๆ
  • ความซับซ้อนที่มากเกินจำเป็น: การที่เนื้อเรื่องต้องสานต่อจาก Part One และการพยายามสรุปเรื่องราวของปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ ทำให้พล็อตมีความ สับสน (Convoluted) และ ไม่สมเหตุสมผล ในบางจุด นักวิจารณ์บางคนรู้สึกว่าผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ แมคควอรี อาจจะ อ่อนล้าทางความคิดสร้างสรรค์ บ้างแล้ว
  • บทสรุปที่ไม่หนักแน่นพอ: ในฐานะ “ภาคสุดท้าย” (The Final Reckoning) หลายความเห็นรู้สึกว่าหนัง ขาดน้ำหนักทางอารมณ์ที่ยิ่งใหญ่ ที่จะทำให้รู้สึกว่านี่คือการสิ้นสุดของทุกสิ่งสำหรับอีธาน ฮันต์ อย่างแท้จริง มันกลับให้ความรู้สึกเหมือน “ภารกิจถัดไป” ที่มีความเสี่ยงสูงเท่านั้น

 

สปอยล์: ประเด็นสำคัญของเนื้อเรื่อง

 

  • การเอาชนะ “ดิ เอนทิตี”: ภารกิจหลักคือการทำลาย “ดิ เอนทิตี” ซึ่งเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่รู้ทุกสิ่งและกำลังจะควบคุมโลก ทีม IMF ต้องค้นหากุญแจที่สมบูรณ์เพื่อเข้าถึงและทำลาย AI นี้
  • การกลับมาของตัวละครจากอดีต: ตัวละครสำคัญหลายตัวจากอดีตของอีธาน ฮันต์ กลับมามีบทบาท รวมถึงมีการปูเรื่องราวในวัยเด็กของอีธานที่เชื่อมโยงกับวายร้ายหลักอย่าง กาเบรียล (Esai Morales)
  • ชะตากรรมของอีธาน ฮันต์: ภาพยนตร์ปิดฉากลงโดยที่อีธานและทีมของเขาสามารถ เอาชนะ “ดิ เอนทิตี” ได้อย่างสมบูรณ์ และป้องกันไม่ให้มันตกไปอยู่ในมือของกลุ่มอำนาจใด ๆ แต่หนังยังคง เปิดประตูไว้ สำหรับการกลับมาของอีธาน ฮันต์ ในอนาคต โดยชี้ให้เห็นว่า “ภารกิจ” ของเขายังไม่จบสิ้น
  • พัฒนาการของเกรซ: เกรซ (Hayley Atwell) ได้พิสูจน์ตัวเองอย่างแท้จริง และกลายเป็นสมาชิกคนสำคัญของทีม IMF อย่างเต็มรูปแบบ

ตัวอย่างหนัง

 

สรุปการวิจารณ์

 

Mission: Impossible – The Final Reckoning เป็นภาพยนตร์แอ็คชัน-สายลับที่ยังคงมาตรฐานความบันเทิงระดับสูงของแฟรนไชส์ไว้ได้ด้วยฉากสตันท์อันเป็นเอกลักษณ์ของทอม ครูซ แต่กลับประสบปัญหาด้านการเล่าเรื่องที่ซับซ้อนและยืดยาวเกินไป

  • ควรดูหรือไม่: หากคุณเป็นแฟนของแฟรนไชส์ Mission: Impossible และต้องการชมฉากแอ็คชันที่น่าทึ่ง รวมถึงบทสรุปของเรื่องราว “ดิ เอนทิตี” คุณไม่ควรพลาด แต่ถ้าคุณกำลังมองหาสุดยอดหนังแอ็คชันที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติเหมือน Fallout คุณอาจจะต้องลดความคาดหวังลงเล็กน้อย

โดยรวมแล้ว นี่คือบทสรุปที่ ดูดี แต่ ขาดความกล้าหาญ ที่จะก้าวข้ามความสำเร็จที่ตัวเองเคยสร้างไว้ไปได้อีกขั้น

Movie

แนะแนวเรื่อง

Previous Post: อนาคตที่เปลี่ยนไป: การเดินทางใหม่ของ ‘เบบี๋’ ที่ไม่ต้องมีมงกุฎกำหนดคุณค่า
Next Post: หนัง You Are the Apple of My Eye (2025) รักเรา ยังจำได้ไหม

Related Posts

หนัง You Are the Apple of My Eye (2025) รักเรา ยังจำได้ไหม Movie
หนัง Inspector Zende (2025) สารวัตรซ่าปะทะทรชน Movie
หนัง Bambi The Reckoning (2025) แบมบี้ Movie
หนัง Highest 2 Lowest (2025) Movie

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Copyright © 2025 world briefs.

Powered by PressBook Grid Dark theme